Bitget App
เทรดอย่างชาญฉลาดกว่าที่เคย
ซื้อคริปโตตลาดเทรดFuturesCopyBotsEarn
การขุดหัวข้อยอดนิยมBitcoin
วิธีขุด Bitcoin: คู่มือสำหรับมือใหม่ในการขุด BTC

วิธีขุด Bitcoin: คู่มือสำหรับมือใหม่ในการขุด BTC

มือใหม่
2025-03-10 | 5m

วิธีขุด Bitcoin: คู่มือสำหรับมือใหม่ในการขุด BTC

บทนำ

หากคุณเคยสงสัยว่า Bitcoin ใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร คำตอบก็คือด้วยการขุด Bitcoin ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เครือข่าย Bitcoin ดำเนินงานต่อไปได้ โดยยืนยันธุรกรรมแล้วเพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน และรางวัลสำหรับการทำงานที่นักขุดจะได้รับก็คือ BTC เหรียญใหม่

ฟังดูง่ายใช่ไหม แต่ที่จริงก็ไม่ง่ายขนาดนั้น ในช่วงเริ่มแรกของ Bitcoin ใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์ธรรมดาทั่วไปก็ขุดได้แล้ว แต่การขุด Bitcoin ในปี 2025 ได้กลายมาเป็นการแข่งขันที่สูงมาก ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง ไฟฟ้าราคาถูก และความรู้ทางเทคนิค จึงจะทำกำไรได้

แล้วการขุด Bitcoin ยังคุ้มค่าในปี 2025 อยู่หรือไม่ วิธีการเป็นอย่างไร ต้องใช้อะไรบ้างเพื่อเริ่มต้น และที่สำคัญที่สุดคือจะทำให้สามารถสร้างรายได้ได้จริงหรือ

ในคู่มือนี้ เราจะเปิดทุกรายละเอียดให้มือใหม่เข้าใจได้ไม่ยาก ไม่ว่าคุณจะอยากรู้เกี่ยวกับการขุด BTC กำลังคิดจะตั้งอุปกรณ์ของคุณเอง หรือแค่ต้องการทำความเข้าใจในกระบวนการให้มากขึ้น คุณมาถูกที่แล้ว

การขุด Bitcoin คืออะไร

การขุด Bitcoin เป็นกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยให้เครือข่าย Bitcoin โดยช่วยให้แน่ใจได้ว่าจะไม่มีใครสามารถใช้จ่าย Bitcoin เหรียญเดียวกันซ้ำ 2 ครั้งได้ และ BTC ใหม่จะเข้าสู่ระบบหมุนเวียนในลักษณะที่ได้รับการควบคุม ส่วนนักขุดก็มีบทบาทสำคัญในการสร้าง Bitcoin ใหม่เช่นกัน แต่สิ่งนี้ไม่เหมือนกับการพิมพ์เงิน เพราะเป็นกระบวนการที่ดำเนินตามกฎที่เข้มงวดซึ่งกำกับเป็น Code ไว้ในระบบของ Bitcoin

แกนหลักของการขุด Bitcoin คือการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนโดยใช้คอมพิวเตอร์อันทรงพลัง นักขุดแข่งกันหาคำตอบที่ถูกต้อง และผู้ที่ทำได้เป็นคนแรกก็จะได้เพิ่มบล็อกใหม่ลงในบล็อกเชน สิ่งที่ได้ตอบแทนคือรางวัลที่เป็น Bitcoin ใหม่และค่าธรรมเนียมธุรกรรม

ลองนึกภาพว่าเป็นเหมือนลอตเตอรี่มหึมาที่นักขุดต้องคอยเดาเลขให้ถูกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งนักขุดมีกำลังการประมวลผลมาก ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะชนะมาก แต่จะต่างไปจากลอตเตอรี่ตรงที่การขุดนั้นมีวัตถุประสงค์ที่แท้จริง นั่นคือช่วยรักษาความปลอดภัยให้เครือข่ายและช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมนั้นถูกต้องตามกฎ

Bitcoin สามารถขุดได้กี่เหรียญ

Bitcoin สามารถขุดได้ทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นขีดจำกัดที่กำหนดไว้โดย Code ของ Bitcoin จนถึงช่วงเวลาที่เขียนนี้ มีการขุดไปแล้วประมาณ 19.83 ล้าน BTC ทำให้เหลือให้สร้างได้อีกเพียงไม่ถึง 1.17 ล้าน BTC เนื่องด้วยอีเวนต์ Halving ของ Bitcoin ลดรางวัลจากการขุดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี จึงคาดกันว่า Bitcoin สุดท้ายจะถูกขุดขึ้นในราวๆ ปี 2140

ทำไมการขุด Bitcoin ถึงสำคัญ

การขุดไม่ใช่แค่เรื่องการทำเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นส่วนสำคัญของระบบ Bitcoin ด้วยเหตุผลหลายประการ:

การตรวจสอบยืนยันธุรกรรม: ธุรกรรม Bitcoin ทุกรายการจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบก่อนที่จะเพิ่มลงในบล็อกเชนได้ นักขุดทำกระบวนการนี้โดยมัดรวมธุรกรรมเข้าไว้ในบล็อก แล้วยืนยันความถูกต้องตามกฎของธุรกรรม

การรักษาความปลอดภัยให้เครือข่าย: ยิ่งมีนักขุดมาก การโจมตีเครือข่ายก็ยิ่งทำได้ยาก ผู้โจมตีจะต้องควบคุมกำลังการขุดให้ได้มากกว่า 50% เพื่อควบคุมธุรกรรม ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในระดับปัจจุบัน

การควบคุมอุปทานของ Bitcoin: สิ่งที่ทำให้แตกต่างไปจากสกุลเงินดั้งเดิมก็คือ Bitcoin นั้นมีอุปทานตายตัวอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ การขุดเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ Bitcoin ใหม่เข้าสู่ระบบหมุนเวียนได้ โดยดำเนินไปตามกำหนดการสำหรับการออกที่คาดเดาได้

การกระจายศูนย์: เนื่องจากใครก็ตามก็สามารถเข้าร่วมในการขุดได้ Bitcoin จึงยังคงเป็นเครือข่ายที่เปิดกว้างและต้านทานต่อการถูกเซนเซอร์อยู่

การขุด Bitcoin เมื่อดูตามตัวเลข

การขุด Bitcoin เติบโตจากงานอดิเรกเฉพาะกลุ่มจนกลายเป็นอุตสาหกรรมระดับโลกขนาดมหึมา ในช่วงแรกเริ่มนั้น ใครก็ตามที่มีคอมพิวเตอร์ธรรมดาๆ ก็สามารถขุด Bitcoin ได้แล้ว แต่ปัจจุบัน การขุดส่วนใหญ่เป็นการดำเนินการขนาดใหญ่ที่ใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะทางและไฟฟ้าในปริมาณมหาศาล

เรามาดูสถิติสำคัญๆ บางส่วนกันที่จะทำให้เห็นภาพได้ว่าการขุด Bitcoin นั้นมีขนาดใหญ่แค่ไหนในปี 2025:

รางวัลจากการขุด: ทุกครั้งที่นักขุดเพิ่มบล็อกลงในบล็อกเชนสำเร็จ ก็จะได้รับ 3.125 BTC (ตามการ Halving ของ Bitcoin ปี 2024) เป็นการตอบแทน จำนวนดังกล่าวนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี

ต้นทุนเฉลี่ยในการขุด 1 Bitcoin: ณ เดือนมกราคม 2025 นักขุดที่เป็นกิจการขนาดใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ $27,000 ในการผลิต 1 Bitcoin แต่จำนวนที่แน่ชัดนั้นก็ขึ้นอยู่กับราคาไฟฟ้าและประสิทธิภาพในการขุด

การใช้ไฟฟ้า: เครือข่าย Bitcoin ใช้ไฟฟ้าประมาณ 169.70 เทระวัตต์ชั่วโมง (TWh) ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของบางประเทศ เช่น โปแลนด์

ระดับความยากในการขุด: ระดับความยากในการขุดจะปรับทุก 2,016 บล็อก (ราวทุก 2 สัปดาห์) เพื่อให้แน่ใจได้ว่าบล็อกจะถูกขุดขึ้นมาทุก 10 นาทีโดยประมาณ

กำลังการขุดทั่วโลก (Hashrate): กำลังการขุดทั้งหมดของเครือข่าย Bitcoin ปัจจุบันอยู่ที่หลายร้อย Exahash ต่อวินาที (EH/s) ซึ่งหมายถึงนักขุดทำการคำนวณรวมกันเป็นหลายล้านล้านล้านครั้งต่อวินาที

ประเทศที่มีการขุด Bitcoin มากที่สุด: สถานที่ขุด Bitcoin ชั้นนำ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน คาซัคสถาน รัสเซีย และแคนาดา ปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุนด้านพลังงานและข้อบังคับ ส่งผลต่อสถานที่ที่การขุดจะทำกำไรได้สูงสุด

Mining Pool ที่ใหญ่ที่สุด: การขุดมักทำกันเป็น Pool ซึ่งนักขุดจะรวมทรัพยากรของตนเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับรางวัล Pool ที่ใหญ่ที่สุดก็เช่น Foundry USA และ Antpool ซึ่งควบคุม Hashrate ของเครือข่ายมากกว่า 50%

ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่าการขุด Bitcoin มีการแข่งขันกันสูง แต่กระบวนการขุดนั้นจริงๆ แล้วทำงานอย่างไร มาดูกันไปทีละขั้นทีละตอนกัน

กระบวนการขุด Bitcoin ทำงานอย่างไร

การขุด Bitcoin มักอธิบายกันว่าเป็นการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วมีอะไรเกิดขึ้นเบื้องหลังกันแน่ นักขุดจะแข่งขันกันเพื่อเพิ่มบล็อกใหม่ให้กับบล็อกเชน Bitcoin โดยใช้คอมพิวเตอร์อันทรงพลังในการคำนวณนับล้านล้านครั้งต่อวินาที กระบวนการนี้เป็นไปตามชุดของกฎที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะมีความยุติธรรม ปลอดภัย และกระจายศูนย์

1. Proof of Work (PoW) – รากฐานของการขุด

การขุด Bitcoin อาศัยระบบที่เรียกว่า Proof of Work (PoW) ซึ่งหมายความว่านักขุดต้องทำงานคำนวณเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและเพิ่มธุรกรรมเหล่านั้นลงในบล็อกเชน PoW ทำให้มั่นใจได้ว่า:

นักขุดต้องใช้พลังงานเพื่อหาบล็อกที่ถูกต้องใช้ได้ ซึ่งทำให้ Bitcoin ทนทานต่อสแปมและการฉ้อโกง

เครือข่ายยังคงปลอดภัย เนื่องจากผู้โจมตีจะต้องมีกำลังการประมวลผลมหาศาลเพื่อควบคุมธุรกรรม

ธุรกรรมมีการกระจายศูนย์ หมายความว่าไม่มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งควบคุม Bitcoin

2. เป้าหมาย Hash – การค้นหาหมายเลขที่ถูกรางวัล

นักขุดเรียกได้ว่าเล่นเกมทายผล โดยมีเป้าหมายในการหา Hash ที่ถูกต้องใช้ได้ ซึ่งเป็นสตริงที่ไม่ซ้ำกันซึ่งมีอักขระ 64 ตัวที่ตรงตามข้อกำหนดระดับความยากของ Bitcoin เครือข่าย Bitcoin ตั้งค่า Hash เป้าหมาย แล้วนักขุดจะต้องสร้าง Hash ที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับเป้าหมายเพื่อจะได้รับรางวัลบล็อก

ลองคิดดูว่าเป็นเหมือนการทอยลูกเต๋า ยิ่งทอยได้เลขน้อย ก็ยิ่งดี แต่แทนที่จะทอยเพียงครั้งเดียว นักขุดจะทอยหลายล้านล้านครั้งต่อวินาทีโดยใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง

3. Nonce – กุญแจสำคัญในการค้นหา Hash ที่ถูกต้องใช้ได้

Nonce (ตัวเลขที่ใช้เพียงครั้งเดียว) คือตัวเลขสุ่มที่นักขุดจะเปลี่ยนเรื่อยๆ เพื่อสร้าง Hash ใหม่ โดยเริ่มต้นด้วย Nonce = 0 แล้วคำนวณ Hash จากนั้นตรวจสอบว่าอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายหรือไม่ หากไม่ ก็จะเพิ่ม Nonce แล้วลองอีกครั้ง

ตัวอย่าง:

อินพุต: “Bitcoin Block 100000 + Nonce 1” → Hash = X (สูงเกินไป ลองอีกครั้ง)

อินพุต: “Bitcoin Block 100000 + Nonce 2” → Hash = Y (สูงเกินไป ลองอีกครั้ง)

อินพุต: “Bitcoin Block 100000 + Nonce 3,758,192” → Hash = ถูกต้องใช้ได้! บล็อกถูกขุดแล้ว!

4. นักขุดที่ชนะจะได้เพิ่มบล็อกใหม่

เมื่อนักขุดพบ Hash ที่ถูกต้องใช้ได้แล้ว ก็จะทำการ:

Broadcast บล็อกใหม่สู่เครือข่าย

รับรางวัลบล็อก (3.125 BTC ในปี 2025) + ค่าธรรมเนียมธุรกรรม

เริ่มกระบวนการใหม่สำหรับบล็อกถัดไป

กระบวนการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ทุก 10 นาทีโดยประมาณ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า Bitcoin ใหม่จะเข้าสู่ระบบหมุนเวียนด้วยอัตราที่คาดเดาได้

5. ตัวอย่าง: การขุดบล็อก 830,175

วิธีขุด Bitcoin: คู่มือสำหรับมือใหม่ในการขุด BTC image 0

ที่มา: blockchain.com

บล็อก #830,175 ถูกขุดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 01:15 น. โดย Braiins ซึ่งเป็นหนึ่งใน Bitcoin Mining Pool ชั้นนำ บล็อกนี้ยืนยันธุรกรรมได้สำเร็จหลายพันรายการและมีส่วนช่วยในการรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่าย Bitcoin มาดูให้ลึกลงไปกันว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสร้างบล็อกนี้ขึ้นมา

Nonce ที่สร้าง Hash ที่ชนะคือ 4,097,493,836 ในการขุด Bitcoin นั้น ค่า Nonce จะเริ่มต้นจาก 0 และเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งจนกว่าจะพบ Hash ที่ถูกต้องใช้ได้ เมื่อพิจารณาจากระดับความยาก นั่นหมายความว่าต้องมีการเดานับล้านล้านครั้งก่อนที่ Braiins จะขุดบล็อกนี้ได้สำเร็จ

บล็อกนี้ยืนยันธุรกรรมจำนวน 3,126 รายการ โดยมีการเคลื่อนย้ายทั้งหมด 7,304.47 BTC ($364,047,343) ทั่วทั้งเครือข่าย ขนาดธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3367 BTC ($116,458) ในขณะที่ขนาดธุรกรรมมัธยฐานอยู่ที่ 0.0058 BTC

วิธีเริ่มขุด Bitcoin

ขั้นตอนที่ 1: เลือกวิธีขุดของคุณ

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น ให้ตัดสินใจก่อนว่าวิธีขุดแบบใดเหมาะกับคุณที่สุด:

การขุดแบบฉายเดี่ยว – คุณขุด Bitcoin อย่างอิสระและไม่ต้องแบ่งรางวัลให้ใคร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีระดับความยากที่สูง นักขุดฉายเดี่ยวจึงแทบจะไม่ประสบความสำเร็จเลย เว้นแต่จะมีกำลังการประมวลผลมหาศาล

การขุดแบบ Pool – คุณจะได้เข้าร่วม Mining Pool ซึ่งนักขุดหลายๆ คนจะนำกำลังการประมวลผลของตนมารวมเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับ Bitcoin รางวัลจะแบ่งกันระหว่างสมาชิกตามการมีส่วนสนับสนุนของตน นักขุดส่วนใหญ่เลือกวิธีนี้เนื่องจากมีการจ่ายเงินที่สม่ำเสมอ

การขุดบน Cloud – แทนที่จะต้องซื้อและบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ คุณสามารถเช่ากำลังขุดจากบริษัทที่เป็นเจ้าของฟาร์มขุดได้ นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะได้มีส่วนร่วม แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะบริการสำหรับการขุดบน Cloud นั้นส่วนใหญ่เป็นสแกมหรือให้ผลตอบแทนเพียงเล็กน้อย

ขั้นตอนที่ 2: เลือกฮาร์ดแวร์ขุดที่เหมาะสม

การขุด Bitcoin ไม่ทำกำไรอีกต่อไปหากใช้คอมพิวเตอร์หรือ GPU ธรรมดาทั่วไป แทนที่จะเป็นเช่นนั้น นักขุดส่วนใหญ่ใช้เครื่องขุด ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการขุด Bitcoin ตัวอย่างเครื่องขุด ASIC ชั้นนำในปี 2025 ได้แก่:

Antminer S21 Pro – 234 TH/s, 3,510W

WhatsMiner M66S – 298 TH/s, 5,513W

Avalon A1566 – 150 TH/s, 3,225W

เมื่อเลือกอุปกรณ์ขุด ให้พิจารณา Hashrate (TH/s), การใช้ไฟฟ้า (W) และประสิทธิภาพพลังงาน (J/TH) เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างผลการดำเนินงานกับต้นทุนค่าไฟฟ้า

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่า Bitcoin Wallet

คุณจะต้องมี Bitcoin Wallet เพื่อรับรางวัลจากการขุด โดยมีหลายประเภทให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น Hardware Wallet, Software Wallet ไปจนถึง Wallet บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน

ตัวเลือกที่ดีที่สุดตัวหนึ่งคือ Bitget Wallet ซึ่งช่วยให้จัดเก็บได้อย่างปลอดภัย ทำธุรกรรมได้อย่างง่ายดาย และผสานการทำงานอย่างราบรื่นกับเครือข่าย Bitcoin อย่าลืมเก็บข้อมูลที่ใช้เข้าถึง Wallet ของคุณไว้ให้ปลอดภัย เพราะหากสูญเสียการเข้าถึง Wallet ก็จะหมายความว่าสูญเสีย Bitcoin ของคุณไปอย่างถาวร

ดาวน์โหลด Bitget Wallet

ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งและกำหนดค่าซอฟต์แวร์ขุด

ซอฟต์แวร์ขุดเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์ของคุณเข้ากับเครือข่าย Bitcoin หรือ Mining Pool ที่คุณเลือก ตัวอย่างตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่:

CGMiner – โอเพนซอร์ส, รองรับเครื่องขุด ASIC, อินเทอร์เฟซแบบ Command-Line

BFGMiner – คล้ายกับ CGMiner แต่สามารถปรับแต่งได้ดีกว่า

NiceHash – เป็นมิตรกับผู้ใช้ เหมาะสำหรับมือใหม่

Braiiins OS+ – ปรับมาให้เหมาะสมสำหรับประสิทธิภาพการใช้พลังงานและผลการดำเนินงาน

เมื่อติดตั้งแล้ว คุณจะต้องกำหนดค่าซอฟต์แวร์ด้วยการตั้งค่าของ Mining Pool ของคุณ ซึ่งรวมไปถึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์, Worker ID และ Wallet Address

ขั้นตอนที่ 5: เข้าร่วม Mining Pool (ไม่บังคับ แต่แนะนำ)

หากคุณไม่ได้ขุดแบบฉายเดี่ยว คุณจะต้องเข้าร่วม Mining Pool ตัวอย่าง Pool ที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่:

Foundry USA – หนึ่งใน Pool ที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา

Antpool – ดำเนินการโดย Bitmain ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทขุดชั้นนำ

F2Pool – Mining Pool ที่อยู่มานานและมีการเข้าถึงทั่วโลก

การเข้าร่วม Pool จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับ Bitcoin เป็นประจำ เนื่องจากรางวัลจะแจกจ่ายตามกำลังการ Hash ที่แต่ละคนมีส่วนสนับสนุน

ขั้นตอนที่ 6: เริ่มขุดและตรวจสอบผลการดำเนินงาน

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เริ่มดำเนินการขุดได้เลย! ตรวจสอบ Hashrate, การใช้พลังงาน และผลกำไรได้โดยใช้ซอฟต์แวร์ขุดหรือแดชบอร์ด Pool ของคุณ

เนื่องจากการขุดต้องใช้พลังงานมาก จึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องของคุณอยู่ในบริเวณที่มีการระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนมากเกินไป นักขุดบางรายใช้โซลูชันระบายความร้อนภายนอกหรือการระบายความร้อนด้วยการจุ่มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

วิธีคำนวณผลกำไรจากการขุด Bitcoin

การขุด Bitcoin อาจทำกำไรได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญบางประการ ก่อนที่จะเริ่มต้น สิ่งที่สำคัญคือต้องดูว่าการขุดจะสร้างรายได้ให้คุณได้จริงๆ หรือไม่

อะไรส่งผลต่อผลกำไรจากการขุด

1. ต้นทุนค่าไฟฟ้า – การขุดใช้พลังงานจำนวนมาก และอัตราค่าไฟฟ้านั้นก็แตกต่างกันไปตามสถานที่ที่คุณอยู่ หากมีค่าไฟฟ้าที่ถูกกว่า ก็หมายถึงกำไรที่จะสูงขึ้น

2. ประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์การขุด – ยิ่งเครื่องขุดประหยัดพลังงานมาก (วัดเป็นจูลต่อ Terahash, J/TH) ต้นทุนการดำเนินงานของคุณก็จะยิ่งต่ำ

3. ระดับความยากในการขุด – Bitcoin ปรับระดับความยากในการขุดทุก 2 สัปดาห์ โดยทำให้ขุดได้ยากขึ้นหรือง่ายขึ้นตามการแข่งขัน ยิ่งระดับความยากสูง ก็ยิ่งรับรางวัลได้ยาก

4. รางวัลบล็อกและค่าธรรมเนียม – สำหรับปี 2025 นักขุดจะได้รับ 3.125 BTC ต่อบล็อกบวกกับค่าธรรมเนียมธุรกรรม แต่รางวัลนี้จะลดลงไปครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี

5. ราคา Bitcoin – เนื่องจากนักขุดจะได้รับ BTC เป็นการตอบแทน ดังนั้นราคาของ Bitcoin จึงส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าผลตอบแทนที่ได้รับในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หากราคา Bitcoin ลดลง กำไรก็จะลดลง

คุณไม่จำเป็นต้องนั่งคิดเลขเอง เพราะมี Bitcoin Mining Calculator ที่จะช่วยให้คุณประมาณผลตอบแทนของคุณได้ตามเครื่องที่ใช้ ตัวอย่างตัวที่ดี ได้แก่ NiceHash Mining Calculator, CryptoCompare Profitability Calculator และ WhatToMine Calculator

ข้อบังคับว่าด้วยการขุด Bitcoin: สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้

ก่อนที่จะเริ่มขุด Bitcoin สิ่งสำคัญคือต้องรู้กฎหมายในประเทศของคุณ แม้ว่าการขุดจะเป็นสิ่งถูกกฎหมายในหลายๆ พื้นที่ แต่รัฐบาลบางประเทศก็จำกัดหรือแบนไปเนื่องด้วยข้อกังวลด้านพลังงานหรือข้อบังคับทางการเงิน

การขุด Bitcoin ถูกกฎหมายที่ไหนบ้าง

การขุด Bitcoin เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศต่างๆ อย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี และอื่นๆ แม้ว่ากฎจะแตกต่างกันไปก็ตาม บางพื้นที่ให้สิ่งจูงใจ ในขณะที่บางพื้นที่มีการเรียกเก็บภาษีหรือต้องจดทะเบียน

การขุด Bitcoin ถูกแบนที่ไหนบ้าง

จีน เนปาล – แบนโดยสมบูรณ์เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานและการควบคุมระบบการเงินของรัฐบาล

แอลจีเรีย โมร็อกโก อียิปต์ แองโกลา – ห้ามเนื่องด้วยข้อบังคับด้านการเงินและความเครียดจากการขุดต่อโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ

ก่อนขุด อย่าลืมดูกฎหมายในพื้นที่ จดบันทึกผลตอบแทนที่ต้องเสียภาษี และมองหาทางเลือกด้านพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้ก้าวล้ำนำหน้าข้อบังคับใดๆ ในอนาคต

ต้นทุนแฝงของการขุด Bitcoin

การขุด Bitcoin อาจทำกำไรได้ แต่ก็มาพร้อมความท้าทาย ต่อไปนี้คือความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดที่นักขุดต้องเผชิญ:

1. ค่าไฟฟ้าสูง

การขุดใช้พลังงานมหาศาล และค่าไฟฟ้านั้นก็แตกต่างกันไปตามสถานที่ที่คุณอยู่ หากต้นทุนพลังงานสูงเกินไป การขุดอาจไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินการแบบเล็กๆ

2. ฮาร์ดแวร์ราคาแพงและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

เครื่องขุด ASIC นั้นราคาไม่ถูก และมีรุ่นที่ใหม่กว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า ออกมาเป็นประจำ ในการที่จะแข่งขันได้นั้น นักขุดมักต้องลงทุนซ้ำกับฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มขึ้น

3. ความผันผวนของราคา Bitcoin

นักขุดจะได้รับ Bitcoin เป็นการตอบแทน ดังนั้นเมื่อราคาปรับตัวลง กำไรก็จะได้รับผลกระทบ หากมูลค่าของ Bitcoin ลดลงไปต่ำกว่าต้นทุนการขุด การดำเนินการต่างๆ อาจไร้กำไรได้อย่างรวดเร็ว

4. ความยากในการขุดที่เพิ่มขึ้น

ระดับความยากในการขุด Bitcoin จะปรับทุก 2 สัปดาห์ ยิ่งมีนักขุดแข่งขันกันเพื่อหารางวัลมาก การขุดบล็อกก็จะยิ่งยากขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะได้รับรางวัลน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป เว้นแต่คุณจะอัปเกรดอุปกรณ์ของคุณ

5. การเปลี่ยนแปลงด้านข้อบังคับ

บางรัฐบาลสนับสนุนการขุด Bitcoin ในขณะที่บางรัฐบาลแบนหรือกำกับดูแลอย่างหนัก การติดตามความเคลื่อนไหวด้านกฎหมายถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับหรือการถูกสั่งปิดโดยไม่คาดคิด

6. ความร้อนและการบำรุงรักษาอุปกรณ์

เครื่องขุดสร้างความร้อนออกมามาก ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องมีระบบระบายความร้อนที่เหมาะสม หากไม่มีระบบระบายอากาศหรือระบายความร้อนที่ดี ฮาร์ดแวร์ก็อาจร้อนเกินไปและเสียหายได้ ส่งผลให้ต้องหยุดดำเนินการและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

7. ความเสี่ยงจาก Mining Pool

การเข้าร่วม Mining Pool ช่วยให้นักขุดได้รับรางวัลที่สม่ำเสมอมากขึ้น แต่ Pool ต่างๆ ก็เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและอาจกลายเป็นรูปแบบรวมศูนย์ได้ หากมี Pool เจ้าใดเจ้าหนึ่งควบคุมกำลัง Hash มากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin ได้

8. ความปลอดภัยและการฉ้อโกง

เครื่องขุดอาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ ฮาร์ดแวร์สแกม และแชร์ลูกโซ่แบบ Ponzi Scheme ได้ การใช้ซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ การรักษาความปลอดภัยให้กับการดำเนินการขุดของคุณ และการใช้ความระมัดระวังกับข้อเสนอทางออนไลน์นั้นสามารถช่วยป้องกันการสูญเสียได้

บทสรุป

การขุด Bitcoin ในปี 2025 ไม่ใช่กระบวนการที่ง่ายและมีต้นทุนต่ำอีกต่อไป เมื่อราคาไฟฟ้าสูงขึ้น มีการแข่งขันสูงขึ้น และฮาร์ดแวร์ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การขุดให้ประสบความสำเร็จจึงต้องใช้มากกว่าแค่การเสียบปลั๊กเปิดเครื่องเท่านั้น ปัจจุบันนักขุดต้องมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพ การจัดการต้นทุน และการรับมือกับการปรับระดับความยากของเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ยังคงทำกำไรได้

แล้วการขุด Bitcoin จะยังคงทำกำไรได้อยู่หรือไม่ สำหรับผู้ที่วางแผนอย่างชาญฉลาด ลงทุนในอุปกรณ์ที่เหมาะสม และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม คำตอบคือทำได้ แม้ว่าภูมิทัศน์จะซับซ้อนมากขึ้น แต่โอกาสก็ยังคงมีอยู่สำหรับผู้ที่เข้าใจถึงความท้าทายและเต็มใจที่จะรับมือ กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในปี 2025 ไม่ใช่แค่การขุดเฉยๆ แต่ต้องเป็นการขุดอย่างชาญฉลาด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ถาม 1: ต้องใช้เวลานานเท่าใดในการขุด 1 Bitcoin

หากใช้เครื่องขุด ASIC ประสิทธิภาพสูง อาจต้องใช้เวลาหลายเดือน นักขุดส่วนใหญ่ได้รับผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันจาก Mining Pool

ถาม 2: Bitcoin สามารถขุดได้ฟรีหรือไม่

ไม่ได้ การขุดต้องใช้ไฟฟ้าและฮาร์ดแวร์ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ต้องเสียเงิน บริการขุด “ฟรี” มักเป็นสแกมหรือเสนอผลตอบแทนเพียงเล็กน้อย

ถาม 3: จะเริ่มขุด Bitcoin ได้อย่างไร

คุณจะต้องมีฮาร์ดแวร์ขุด ASIC, Bitcoin Wallet, ซอฟต์แวร์ขุด, Mining Pool (ไม่บังคับ) และไฟฟ้าราคาถูกเพื่อให้ทำกำไรได้

ถาม 4: การขุด Bitcoin ถูกกฎหมายหรือไม่

ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ในหลายพื้นที่นั้นการขุดถูกกฎหมาย แต่บางแห่ง เช่น จีนและโมร็อกโก ถูกแบน ให้ดูกฎหมายในพื้นที่เสมอ

ถาม 5: Bitcoin สามารถขุดที่บ้านได้หรือไม่

ได้ แต่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง ไฟฟ้าราคาถูก และระบบระบายความร้อน นักขุดที่บ้านส่วนใหญ่เข้าร่วม Mining Pool เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า

ข้อสงวนสิทธิ์: ความคิดเห็นที่อยู่ในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น บทความนี้ไม่ใช่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใดๆ ที่ได้มีการเอ่ยถึง รวมถึงไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน การเงิน หรือการเทรด ผู้ใช้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองก่อนตัดสินใจลงทุน

แชร์
link_icon
วิธีขาย PIBitget ลิสต์ PI – ซื้อหรือขาย PI อย่างรวดเร็วที่ Bitget!
เทรดเลย
ทุกเหรียญโปรดของคุณ เรามีให้ครบครัน!
ซื้อ ถือ และขายคริปโทเคอร์เรนซียอดนิยม เช่น BTC, ETH, SOL, DOGE, SHIB, PEPE และอีกเพียบ ลงทะเบียนและเทรดเพื่อรับเซ็ตของขวัญสำหรับผู้ใช้ใหม่มูลค่า 6,200 USDT!
เทรดเลย